พนันบอล ลีกสำคัญๆ ทั่วโลก

          พนันบอล ลีกสำคัญๆ ทั่วโลก เริ่มกันที่ ฟุตบอลลา ลีกา สเปน "แชมป์เก่า" บาร์เซโลน่า ยังโชว์ฟอร์มได้สุดยอดหลังบุกไปอัด เรอัล เบติส ถึงถิ่น 4 ประตูต่อ 1 ไปกันที่สนาม เอสตาดิโอ เบนีโต้ บียามาริน, เซบีย่า, สเปน เปิดเกมในครึ่งแรกได้ 7 นาที เจ้าบ้านลุยเข้าใส่ทันที ชาบี ตอร์เรส เปิดลูกเตะมุมให้กับ จอร์ดี้ ฟิเกราส เทคตัวโหม่งหลุดกรอบออกหลังไป ผ่านมา 16 นาที เบติส ยังได้ลุ้นต่อเนื่อง นาโช่ เปเรซ เแปิดบอลให้กับ ฆอร์เก้ โมลีน่า ซัลโวด้วยขวาจากระยะแค่ 6 หลา ทว่า บิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่า เซฟไว้ได้ ถัดมานาทีที่ 35 อเล็กซ์ ซง จ่ายบอลออกมาทางด้านขวาให้กับ เชส ฟาเบรกาส หลุดมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนไหลเข้าในให้กับ เนย์มาร์ แปด้วยขวาง่ายๆ เข้าประตูไปให้ บาร์เซโลน่า นำก่อน 1-0 ถัดมานาทีที่ 36 บาร์ซ่าได้จังหวะบุกอีกครั้ง เปโดร โรดริเกซ ปั่นด้วยขวาบอลโค้งเข้าเสาไกลไปสุดสวยช่วยให้ บาร์เซโลน่า นำห่าง 2-0 ลูกที่สามมาเกิดขึ้นในนาทีที่ 63 อิเนียสต้า ยกบอลข้ามแนวรับของเบติส ให้กับ มอนโตย่า หลุดมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล่วจ่ายสั้นๆ ให้กับ เชส ฟาเบรกาส จิ้มด้วยซ้ายจ่อๆเข้าไปให้ บาร์เซโลน่า นำกระจาย 3-0 เข้าไปแล้ว ถัดมานาทีที่ 79 บาร์ซ่านำห่างเป็น 4-0 จากการโหม่งของ เชส ฟาเบรกาส ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ดาเนียล อัลเวส ไปทำฟาวล์ ฆาเบียร์ มาติย่า ในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รีรอเป่าเป็นลูกจุดโทษทันที และ ฆอร์เค่ โมลีน่า กัปตันทีมลุกขึ้นมาสังหารไม่พลาด เรอัล เบติส ไล่มาเป็น 1-4 เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้แล้ว ครบ 90 นาที บาร์เซโลน่า บุกมาเอาชนะ เบติส ได้ถึงรัง 4-1 เก็บสามแต้มตามเป้าหมายนำจ่าฝูงต่อไป โดยนำหน้า แอต.มาดริด รองจ่าฝูงอยู่ 3 คะแนน

          พนันบอล ลีกสำคัญๆ ทั่วโลก บียาร์เรอัล เปิดสนาม เอสตาดิโอ คัมป์ เอล มาดรีกาล, บียาร์เรอัล, สเปน เสมอกับ "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2556 บียาร์เรอัล เจ้าบ้านต้องขาดโจวานี่ โดส ซานโต๊ส กองหน้าร่างเล็กชาวเม็กซิกัน ซึ่งบาดเจ็บมาจากเกมที่แล้ว ทำให้ต้องใช้งาน โจนาธาน เปเรยร่า ลงล่าตาข่ายร่วมกับ อิเคชุควู อูเช่ ทางด้าน "ตราหมี" แอต.มาดริด รองจ่าฝูงของตารางคะแนนลา ลีกามี 33 แต้มจากการลงสนาม 12 นัด ได้ตัว อาร์ด้า ตูราน ปีกชาวตุรกี ฟิตกลับมามีชื่อเป็นสำรอง แต่ต้องขาด  ฟิลิเป้ หลุยส์ กาสมีร์สกี้ แบ็คซ้ายชาวบราซิลที่ติดโทษแบน 1 นัด ทำให้ต้องใช้งาน เอมิลิอาโน่ อินซูอา ลงเล่นแทน คู่หน้าให้ ดีเอโก้ คอสต้า ดาวยิงที่ฟอร์มกำลังจัดจ้านและเพิ่งถูกเรียกติดทีมชาติสเปนชุดล่าสุด ลงล่าตาข่ายร่วมกับ ดาบิด บีย่า ที่ได้พักมาเต็มๆ ไม่ได้ทำศึกในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 2 นาที ทีมเยือนขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ มาริโอ กาสปาร์ แบ็คขวาบียาร์เรอัล ทำบอลเข้าประตูตัวเองไปสงเคราะห์ให้ แอตเลติโก มาดริด ขึ้นนำเร็ว 1-0 แบบไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อย อย่างไรก็ตามเจ้าบ้านที่บุกหนักทวงคืนจนได้จากลูกทุ่มทางด้านขวาให้ เฌเรมี่ แปร์กเบ้ต์ พลิกตัวไปรับบอลแล้วพาเข้ามาทางกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนตบมาเสาแรกให้ อิเคชุควู อูเช่ พุ่งเข้าชาร์จ แต่ ฆวนฟราน ตอร์เรส แบ็คขวาตราหมีที่มาถึงบอลก่อนจะจิ้มบอลทิ้ง แต่ผิดเหลี่ยมกลายเป็นเข้าประตูตัวเองไป สงเคราะห์ให้ บียาร์เรอัล ตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 79 เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันอีกไม่ได้แล้ว ครบ 90 นาที เสมอ 1-1 แบ่งแต้มกันไป ทำให้ แอต.มาดริด ยังอยู่ที่สองของตารางคะแนนตามเดิม

          พนันบอล ลีกสำคัญๆ ทั่วโลก ข้ามไปที่ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2556
ไมนซ์ เปิดสนาม โคเฟซ อารีน่า เอาชนะ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 1 ประตูต่อ 0 เจ้าถิ่นต้องใช้ โยริส คาริอุส มือ 3 เฝ้าเสา แดนหน้าวาง ชินจิ โอกาซากิ ศูนย์หน้าญี่ปุ่นล่าตาข่าย ฝั่ง อินทรีแดง-ดำ ได้ เซบาสเตียน ยุง กลับมายืนแบ็กขวา แดนกลางมี ทาคาชิ อินูอิ มิดฟิลด์ญี่ปุ่นลงตัวจริง เริ่มเกมมาได้ 3 นาที ทีมเยือนน่าได้ประตูนำสุดๆ จากลูกเตะมุม บาร์เน็ตต้า เปิดไปให้ อเล็กซานเดอร์ ไมเออร์ โหม่งชนคาน วาคลาฟ คัดเล็ช จิ้มด้วยซ้ายอีกทีหลุดกรอบ แฟร้งค์เฟิร์ต อาศัยลูกเตะมุมเล่นงานเจ้าบ้านอีกหนในนาที 11 บาร์เน็ตต้า คนเดิมโยนให้ มาร์โก รุสส์ กองหลังขึ้นมาโหม่งถากเสาออกไป ไมนซ์ หาทางตอบโต้บ้าง นาทีที่ 21 พาร์ค จู-โฮ ครอสบอลจากด้านซ้ายให้ นิโคลเซ่ โนเวสกี้ โหม่งไปติดเซฟ เควิน ทรัปป์ ปัดข้ามคาน จบครึ่งแรก ยังเสมอ 0-0 เกมเหมือนจะจบแบบไม่มีประตูอยู่แล้ว แต่นาที 88 ไมนซ์ ก็ได้ประตูนำ 1-0 ซเดเน็ค โพสเพ็ค เปิดจากขวาให้ ชูโป-โมติง ตัวสำรองทีเด็ด ขึ้นโหม่งเน้นๆ เสียบมุม เป็นประตูชัยให้ ไมนซ์ คว้าชัยในบ้าน สรุปผลฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน ไมนซ์ ชนะ แฟร้งค์เฟิร์ต 1 ประตูต่อ 0, ไฟร์บวร์ก เปิดบ้านพ่าย สตุ๊ตการ์ท 1 ประตูต่อ 3

          พนันบอล ลีกสำคัญๆ ทั่วโลก ไปกันที่ฟุตบอล ลีกเอิง ฝรั่งเศส วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2556 โอลิมปิก มาร์กเซย เปิดสนาม สต๊าด เวโลโดรม เอาชนะ โซโชซ์ 2 ประตูต่อ 1 เอลี่ บ๊ป ผู้จัดการทีมมาร์กเซยวัย 58 ปี นำทีมไม่ชนะ 7 นัดซ้อน หลังจากพ่ายนัดเยือน นาโปลี 2-3 ที่อิตาลี เมื่อคืนวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 โดยนัดนี้เขาส่ง ฟลอริย็อง โตแว็ง กับ ดิมิทรี่ ปาเยต นำเกมรุก ส่วน แอร์กเว่ เรอนาร์ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของโซโชซ์วัย 45 ปีขาด เปตรุส บูมาล แบ็กซ้ายแคเมอรูนติดโทษแบน 1 นัด และเป็น เซบาสเตียง กอร์กเชีย เล่นแบ็กซ้ายแทน เกมครึ่งแรก ผ่านไปเพียง 5 นาที มาร์กเซยนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว เบนฌาแม็ง เมนดี้ โยนบอลจากฝั่งซ้ายไปเข้าหัว ฟลอริย็อง โตแว็ง โหม่งเผาขนเรียบร้อย เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 60 โซโชซ์ ตีเสมอ 1-1 เอ็มมานูเอล มายูก้า ดาวยิงแซมเบียวัย 23 ปีซัลโวเท้าซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม นาทีที่ 83 เจ้าบ้านมาได้ลูกจุดโทษ มาติเยอ เปย์แบร์นส์ กองหลังโซโชซ์ ไปทำแฮนด์บอล ผู้ตัดสินชี้ทันที และเป็น อ็องเดร-ปิแอร์ ชีญัก ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมาซัดเข้าไปไม่เหลือ มาร์กเซย ออกนำ 2-1 เวลาที่เหลืออยู่ทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ จบเกม โอลิมปิก มาร์กเซย เปิดบ้านเอาชนะ โซโชซ์ 2-1